ประเภทของมอเตอร์เกียร์

มอเตอร์เกียร์

Categories :

          มอเตอร์เกียร์เป็นส่วนประกอบสำคัญที่นิยมใช้งานในเครื่องจักรอุตสาหกรรมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ทำหน้าที่ในการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกล มีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้งาน เป็นอุปกรณ์สำหรับส่งกำลังที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในวงการอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม โดยนิยมใช้ในงานระบบสายพานเพื่อใช้เร่งการเคลื่อนย้ายหรือขนส่งสินค้า และมีการนำมอเตอร์เกียร์รูปแบบต่างๆมาใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องจักรด้วยเพื่อให้เป็นตัวควบคุมการทำงานของเครื่องจักรเหล่านั้นให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

          มอเตอร์เกียร์จำเป็นต้องอาศัยกลไกการทำงานร่วมกันกับระบบเฟืองทดเกียร์หรือเฟืองทดรอบ ดังนั้นในการเลือกใช้มอเตอร์เกียร์จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของทั้งมอเตอร์เกียร์และเฟืองทดรอบด้วย เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ โดยมอเตอร์เกียร์นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่

  1. มอเตอร์เกียร์ทรงกระบอก คือ มอเตอร์ที่มีชนิดขนาดใหญ่และมีความเร็วสูง ไม่นิยมนำมาใช้งานและความน่าเชื่อถือค่อนข้างน้อย เพราะสามารถเกิดปัญหาได้ง่าย
  2. มอเตอร์เกียร์ทรงเสี้ยม คือ มอเตอร์ที่มีแกนและขนาดที่ตัดกันทั้งเข้าและออก มีไว้เพื่อใช้ในการเปลี่ยนทิศทางการถ่ายโอนของระบบการทำงานของเครื่องจักร
  3. มอเตอร์เกียร์ทรงหนอน คือ มอเตอร์ที่มีหน้าที่แยกส่วนของกระปุกเกียร์ที่อัตราการทดเกียร์สูง จึงสามารถกระจายความร้อนได้สูง แต่มีประสิทธิภาพของการทำงานไม่สูงมาก
  4. มอเตอร์เกียร์ทรงดาวเคราะห์ คือ มอเตอร์ที่มีขนาดและน้ำหนักของมอเตอร์ค่อนข้างน้อย แต่สามารถรับน้ำหนักของวัตถุได้มากพอสมควร จึงมักถูกนำไปใช้ในการรับค่าการถ่ายโอนที่ดี และมีน้ำหนักมากได้
  5. มอเตอร์เกียร์ชนิดผสม คือ มอเตอร์ชนิดหนึ่งที่มีเฟืองหลายเฟืองเป็นส่วนประกอบและมีการสร้างให้ทันสมัยมากขึ้น มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายและตรงตามความต้องการการใช้งานของกลุ่มวิศวกร

นอกจากนี้มอเตอร์เกียร์ยังแบ่งตามรูปแบบของการใช้กระแสไฟฟ้าได้เช่นกัน โดยแบ่งออกเป็นมอเตอร์เกียร์ชนิดกระแสไฟฟ้าสลับ มักใช้ในเครื่องปั่นไฟหรือใช้กับอุปกรณ์ขนาดเล็กตามครัวเรือน และ มอเตอร์เกียร์ชนิดกระแสไฟฟ้าตรง มักใช้กับอุปกรณ์ที่เป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่หรือตามโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น

และนี่คือประเภทของมอเตอร์เกียร์ที่มีการใช้งานกับอุปกรณ์และเครื่องจักรต่างๆ ซึ่งในการเลือกซื้อมอเตอร์เกียร์นั้นผู้ซื้อควรคำนึงถึงขนาดและกำลังของมอเตอร์เกียร์ที่ต้องการ โดยดูหน่วยแรงม้าหรือวัตต์ อัตราการทดรอบและความเร็ว ลักษณะการติดตั้ง รวมไปถึงระบบไฟ ว่าเป็นแบบ 1 เฟสหรือแบบ 3 เฟส และสามารถใช้โหลดงานได้ต่อเนื่องกี่ชั่วโมง เพื่อเป็นการบอกถึงคุณภาพของมอเตอร์เกียร์นั้นๆ และควรเลือกซื้อมอเตอร์เกียร์ที่มีเฟืองและเพลาสร้างขึ้นมาจากวัสดุที่มีคุณภาพ เพื่อให้มอเตอร์เกียร์สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและอายุการใช้งานยาวนาน